ออกซิเจนเป็นองค์ประกอบที่บริสุทธิ์ในขณะที่อากาศประกอบด้วยองค์ประกอบหลายอย่างรวมกัน อากาศที่ใช้หายใจโดยทั่วไปประกอบด้วยออกซิเจน (21%) และไนโตรเจน (78%) ออกซิเจนบูสเตอร์ เป็นออกซิเจนความเข้มข้น 95% ใช้เพื่อความผ่อนคลาย และพกพาไปได้ทุกที่ [Difference between air and oxygen]

ทุกเซลล์ในร่างกายจะสร้างพลังงานได้ก็ต่อเมื่อมีออกซิเจน เซลล์ได้รับออกซิเจนจากอากาศที่คุณหายใจและสร้างพลังงานจากอาหารที่คุณกินเข้าไป กระบวนการนี้เรียกว่าการหายใจระดับเซลล์ ซึ่งคล้ายกับการเผาไม้ในกองไฟ เมื่อไม้เผาไหม้ ออกซิเจนจะถูกใช้ พลังงานและคาร์บอนไดออกไซด์จะถูกผลิตขึ้น ในเซลล์ร่างกายพลังงานจะถูกจัดเก็บในทางเคมีเพื่อให้เซลล์ใช้ได้ในภายหลัง [10 Reasons why oxygen is important]

ระหว่างออกกำลังกาย กล้ามเนื้อของคุณจะทำงานหนัก อัตราการหายใจและการเต้นของหัวใจของคุณเพิ่มขึ้นและดึงออกซิเจนเข้าสู่กระแสเลือดมากขึ้น ในขณะที่คุณออกกำลังกายนี้ออกซิเจนที่ไปถึงกล้ามเนื้อของคุณจะแปลงกลูโคสที่มีอยู่ให้เป็น ATP ซึ่งทำให้ร่างกายของคุณมีพลังงานที่จำเป็นสำหรับการออกกำลังกาย การวิจัยเรื่องออกซิเจนแสดงให้เห็นว่าออกซิเจนกระป๋อง จะช่วยปรับปรุงประสิทธิภาพ เพิ่มความอดทน และเร่งการฟื้นตัวในการเล่นกีฬาได้ หลังจากสูดลมหายใจที่มีความเข้มข้นของออกซิเจนจะทำให้คุณรู้สึกตื่นตัวและกระฉับกระเฉงขึ้น [Why Oxygenated Muscles Perform Better and Recover Faster]

“การวิจัยพบว่าการบูสออกซิเจนทำให้ความจำระยะยาวดีขึ้น เมื่อเทียบกับกลุ่มควบคุมการหายใจปกติ” หลาย ๆ การศึกษาทางคลินิกยังแสดงให้เห็นว่าออกซิเจนเข้มข้นช่วยเพิ่มการสร้างความจำ และความจำในผู้ใหญ่อย่างมีนัยสำคัญ [Does oxygen improve memory?]

ระดับออกซิเจนของคุณไม่ควรเกิน 110 mmHg การสูดออกซิเจนบริสุทธิ์ 100% มากกว่า 760 mmHg อย่างต่อเนื่องเป็นเวลา 24 ชั่วโมง อาจทำให้คุณเกิดภาวะออกซิเจนเป็นพิษได้ ซึ่งเป็นเรื่องที่เกิดขึ้นได้ยากจากการใช้ออกซิเจนพกพา หรือ ออกซิเจนกระป๋อง อะไรบ้างที่ทำให้คุณได้รับออกซิเจนในระดับสูงเกินไป เช่น การใช้ถังออกซิเจนสำหรับการดำน้ำลึก การบำบัดด้วยออกซิเจนให้ห้องความดันสูง และการใช้เครื่องช่วยหายใจในโรงพยาบาลนานๆ[Learn more]